ถ้ายังจำกันได้ผมเคยบอกว่า การเก็บรักษาความมั่งคั่งของเรา หลักๆจะมี bitcoin และรองลงมาก็คือทองคำแท่ง ซึ่งแน่นอนว่าผมเองก็ ได้เริ่ม DCA ทองคำแท่ง ความบริสุทธิ์ที่ 99.99 ด้วยเช่นกัน

แต่ในบางครั้ง เราก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินสด ซึ่งทั้ง bitcoin และทองคำแท่ง ก็สามารถแปลงสภาพเป็นเงินสดได้ สำหรับ bitcoin ฝากขายก็คือ การนำไป ฝากใน DeFi Lending platform จากนั้นก็กู้ USDT หรือ stable Coin ตัวอื่นออกมาแล้วขายเป็นบาท ผ่านทาง crypto Exchange ที่มีให้บริการอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย เหมือนอย่างที่เนื้อหาในเว็บเราก็ได้เล่าเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

แต่วันนี้ผมจะมาเปิดประสบการณ์ การขายฝากทองคำแท่ง ซึ่งผมไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เลยอยากรู้ว่าถ้าในยามที่เราจำเป็นต้องใช้เงินสด เราจะเปลี่ยนทองคำแท่งมาเป็นเงินสดได้อย่างไร ยุ่งยากแค่ไหน ใช้เวลานานเท่าไร

เดินทางไปร้านทอง

ผมเลือกร้านทองที่มีสาขาเยอะนั่นก็คือ ออโรร่า เหตุเพราะว่าตอนที่ผม DCA ทองคำแท่ง ผมก็เลือกร้านออโรร่า เป็นร้านที่รับทองคำแท่งออกมาด้วยเช่นกัน (ซื้อผ่าน application เป๋าตัง) โดยหลักการพื้นฐานก็คือ ถ้าเป็นทองของร้านนั้น และนำมาขายที่ร้านเดิม จะไม่โดนกดราคามาก ผมเลยเลือกนำทองของร้านออโรร่ามาขายฝากที่ออโรร่านั่นเอง อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ ร้านนี้มีสาขาตามห้างเยอะมาก หาได้ไม่ยากเลย

ขายฝากทอง

พอไปถึงหน้าร้านก็แจ้งพนักงานเลยว่าต้องการขายฝากทอง เขาก็จะพาไปที่หน้าเคาน์เตอร์ กระบวนการแรกก็คือ ชั่งน้ำหนักทอง ซึ่งก็ต้องแกะออกมาจาก package ด้วย ให้เหลือแต่เนื้อทองอย่างเดียว จากนั้นก็ คำนวณราคา โดยราคาที่เราจะได้รับก็คือราคา 90% ของราคาทองคำแท่ง ณ ตอนนั้น สำหรับผมได้มา 73,947 บาท ต่อ 1 oz (ของผมคือ แท่งละ 1 oz)

พนักงานก็จะขอรับบัตรประชาชนไป เพื่อไปทำการ บันทึกข้อมูลเข้าระบบ ในระหว่างกระบวนการที่บันทึกข้อมูลเข้าระบบก็จะมีให้เรา สแกนนิ้ว 3 ครั้ง ติดกัน

รับเงินโอน

การขายฝากจากได้รับเงินเป็นเงินโอนเข้าบัญชีธนาคาร เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมเลขบัญชีธนาคารไปให้พร้อมด้วย ก็บอกเลขบัญชี ชื่อธนาคาร ชื่อบัญชี สาขา เพื่อให้เค้าบันทึกเข้าระบบ และเขาก็จะ ดำเนินการ สร้างรายการโอน และให้เราเซ็นบน iPad ของเขา และเขาก็จะยืนยันการโอนและเงินก็จะเข้าบัญชีเราทันที ซึ่งถ้าเรามี Application หรือมี SMS alert ของธนาคารที่เราใช้งาน เราจะได้รับแจ้งว่าเงินเข้าทันที เพราะเป็นการโอนเงินจากธนาคารสู่ธนาคาร

สำหรับคนที่มีทองมากกว่า 1 แท่ง เขาจะแยกรายการออกเป็นรายแท่ง และแยกสัญญา ออกจากกัน แม้ว่าจะเป็นทองชนิดเดียวกันขนาดเดียวกันเท่ากันก็ตาม

เก็บใบรับขายฝากเป็นหลักฐาน

หลักฐานที่เราจะได้รับก็คือ ใบรับขายฝาก ซึ่งถ้าเรามีทองมากกว่า 1 แท่ง พอจะมีใบนี้มากกว่า 1 ใบ ซึ่งความสำคัญก็คือเราจะต้องเก็บใบนี้ไว้เป็นหลักฐาน ในตอนที่มาไทยถอนครั้งสุดท้าย ถ้าทำหายบอกเลยว่างานยาก เพราะต้องไปแจ้งความก่อน แล้วค่อยเอาใบแจ้งความมาขอออกใบรับฝากใหม่อีกรอบ ซึ่งจะใช้เวลาอีก 3 วัน และถึงจะใช้ใบรับขายฝากนั้น ใครถอนทองคืนได้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นนี่คือเอกสารที่ต้องเก็บให้ดีๆ

ดอกเบี้ย

ดอกเบี้ยจะคิดในอัตราปีละ 15% แต่จะคำนวณรายวัน ดังนั้นเราจะขายฝากกี่วันดอกก็จะวิ่งไปตามจริง โดยดอกที่เราจะต้องจ่ายนั้นจะมี vat เพิ่มอีก 7% ดังนั้นดอกเบี้ยที่แท้จริงคือ 16.05% ต่อปี นั่นเอง ใช้กี่วันก็จ่ายไปตามนั้นเลย

เสร็จแล้วกลับบ้านได้

หมดแล้วครับ ขั้นตอนทั้งหมด ถ้านับกระบวนการที่หน้าร้านอย่างเดียว ประมาณ เกือบครึ่งชั่วโมงได้ครับ เท่าที่ประเมิน ถ้าพนักงานเชี่ยวชาญ น่าจะเร็วกว่านี้ เพราะคราวนี้พนักงาน เหมือนต้อง consult พี่ในร้าน และ consult สำนักงานใหญ่ด้วย ว่าต้องทำอย่างไร และตัวพนักงานเอง ก็ไม่เคยเห็นทองขนาด 1 oz มาก่อน (เพราะปกติขายเป็น บาททอง และ ขนาด 1 oz หน้าร้านไม่มีขาย)

ถ้ารวมระยะเวลาเดินทางไปกลับ ก็ประมาณ 1 ชั่วโมงแน่นอน ในการแปลงทองคำแท่ง กลับมาเป็นเงินบาทในบัญชี

แน่นอนว่าถ้าเป็น Bitcoin กระบวนการ ฝาก > กู้ USDT > โอน USDT > ขายเป็นบาท > รับเงินโอน จะเร็วกว่านี้มากเลยล่ะ (ถ้าไม่มี party ไหน มีอะไรพังๆ หรือ ค้างๆในระบบนะ) และที่สำคัญ ดอกเบี้ยถูกกว่าด้วย เพราะว่าตอนนี้หลายเว็บ ก็5-7% ต่อปีเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ดี เนื้อหานี้ ก็ทำเพื่อให้เป็นประสบการณ์เท่านั้นครับ