ทำงบดุลส่วนบุคคล เพื่อการวางแผนทางการเงิน

เรื่องเงินเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของคนส่วนใหญ่ แต่เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ใส่ใจน้อยที่สุดเช่นกัน ถ้าคิดว่าไม่จริง ลองพิจารณาดูว่าเดือนนึงเราใช้เวลากับการบริหารภาพการเงินส่วนบุคคลเท่าไรกันบ้าง นั่นล่ะพอจะบอกได้เลยว่าเราได้ใส่ใจกับมันจริงหรือเปล่า

งบดุลส่วนบุคคล ฟังชื่อดูน่าเบื่อ น่าหลับมาก แต่แนะนำให้ทำ เพราะมันจะทำให้เห็นสถานการณ์ทางการเงินของตัวเองชัดเจนในภาพรวมมากๆ และไม่ต้องทำบ่อย แต่รับรองว่าถ้าได้ทำแล้ว คุ้มค่าเสียเวลาอย่างแน่นอน

หลังจากที่ทำเสร็จ มันจะบอกเราว่า ตอนนี้เรามีหนี้ หรือ ทรัพย์สินมากกว่ากัน อยู่เท่าไร กระจายอยู่ตรงไหนบ้าง และ เมื่อดุลกันแล้ว เรามีเงินสุทธิ เป็นบวก หรือ ลบ ถ้าเป็น ลบคือหนี้มากกว่าทรัพย์สิน

เข้าใจง่ายๆ คือ ถ้าหนี้มากกว่าทรัพย์สิน เวลาที่มีปัญหาทางการเงิน ทรัพย์สินที่เรามีทั้งหมด จะไม่พอกลบหนี้นั่นเอง กลับกัน ถ้าเรามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้ เราจะมองเห็นว่า เราเหลือเงินอยู่ที่ตรงไหน เพื่อเอาไปลงทุน หรือซื้อของ หรือทำตามฝันอะไรให้กับตัวเองได้บ้าง

เริ่มต้นทำงบดุลส่วนบุคคล

เนื้อหาที่ซ่อนอยู่ แสดง file google sheet เพื่อให้คัดลอกไปใช้งานเป็นของตัวเองได้ และอธิบายการกรอกข้อมูลในแต่ละส่วนแบบง่ายๆ รวมทั้งจะคำนวณให้โดยอัตโนมัติ

--------------------------------------------------------------

เนื้อหาพิเศษ ต้องแลกด้วย Reach เท่านั้น

เนื้อหาส่วนนี้เป็นเนื้อหาพิเศษ จะต้องใช้ reach ในการเข้าอ่านเนื้อหาจุดนี้ เมื่อแลกด้วย reach แล้วจะสามารถอ่านเนื้อหาที่ซ่อนอยู่เพิ่มเติมได้ หากมี reach แล้วกรุณา login ก่อน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่อง Reach

ความมั่งคั่งสุทธิ

นี่คือคำตอบ ที่เราต้องดู ผลลัพท์ หลังจากที่เรากรอกมาครบทั้งหมดแล้ว เลขตัวนี้จะคำนวณให้อัตโนมัติ ซึ่งสิ่งที่คาดหวัง คือมันต้องเป็นค่าบวกครับ

ค่าบวก หมายถึง เรามีเงิน+ทรัพย์สิน เยอะเกินกว่าหนี้สินที่เรามีตอนนี้

ค่าลบ หมายถึง เรามีหนี้สิน เยอะเกินกว่า เงิน+ทรัพย์สินทั้งหมดรวมกัน

ถ้าเป็นค่าลบ หรือว่า บวกน้อยๆ แปลว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เวลาเกิดปัญหา เราจะมีหนี้สินล้นพ้นตัว แก้ไม่ออก และนำมาซึ่งความทุกข์ได้อย่างแน่นอน

ดังนั้น ถ้าเป็นลบเมื่อไร ให้เราพิจารณาหาเงินเพิ่มทันที หรือว่า พิจารณาจ่ายหนี้ตัวที่มีดอกเบี้ยสูงๆออกไปก่อนให้เร็วที่สุดเป็นรายการแรกๆเลย

และถ้าเป็นบวก เราจะเริ่มมองเห็นว่า มีเงิน หรือทรัพย์สิน ไปหนักในส่วนไหนเยอะน้อยยังไง ผมเคยมีเงินเยอะในกองทุนมากๆ เลยรวบเอาออกมาเกือบทั้งหมด เพื่อไปเข้า DeFi ให้มันงอกเงย และมันก็งอกเงยออกมาเป็นผลตอบแทน ในระดับที่ใช้เวลา 10 ปีที่ผ่านมารวมกัน ยังได้ไม่เท่ากับใน DeFi แค่ 8 เดือนเลย เหล่านี้เป็นต้น เราจะวางแผนในภาพรวมได้แบบง่ายๆเลย และบริหารจัดการได้ง่าย เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าอะไรอยู่ตรงไหน (ถ้าข้อมูลถูกต้องจริงๆ)

แต่ถ้าเราเป็น ลบ หรือว่า บวกน้อยๆ เราต้องระวังเรื่องการลงทุนให้มากๆ เพราะแปลว่าเรายังไม่พร้อมสำหรับการลงทุน เราควรจะเพิ่มทรัพย์สินหรือเงินเก็บขึ้นมาก่อน เพื่อให้อย่างน้อยเรามีเหลือพอใช้ หากเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันเข้ามา อย่างที่เคยอธิบายไปเมื่อวาน Covid มา พากันล้มเป็นขบวน

ใช้เวลาทำนานมั้ย

ถ้าครั้งแรก จะนานหน่อย ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเงินและทรัพย์สินของแต่ละคน แต่ครั้งถัดๆไปก็ ใช้เวลาเดือนละ 1 ชั่วโมง ไม่เกินนี้ครับ เพื่อการ update ถ้ายกตัวอย่างผมเอง คนที่มีบัญชีเงินฝาก 11 บัญชี และบัญชีกองทุน อีก 10 กว่าบัญชี และบัญชี trade อีก เกือบ 10 บัญชี ก็ถือว่าใช้เวลาไม่นานเลย ถ้าคนที่ชีวิต simple กว่านี้ น่าจะ15 นาทีเสร็จ ทำเดือนละครั้งก็ถือว่าถี่มากแล้ว ถ้าชีวิต simple มากแนะนำ สองสามเดือนทำครั้งนึงก็พอ แต่ชีวิตจริงคือคนส่วนใหญ่ กลับไม่เคยทำสิ่งนี้เลย นั่นแหล่ะ จะเป็นปัญหามากกว่า

เห็นเลขนี้แล้ว ก็น่าจะพอเข้าใจแล้วนะครับ ว่าสถานการณ์ทางการเงินเป็นอย่างไร

สิ่งสำคัญที่สุด คือ อย่าโกหกตัวเอง เพราะนั่นคือสิ่งที่อันตรายที่สุด มีหนี้อะไร หยอดไปให้ครบเลย มีทรัพย์สินอะไร ก็ใส่ไปให้ครบเช่นกัน ด้วยราคาตลาดนะครับ เช่น ซื้อของมาราคา 10 บาท แต่ตอนนี้ของนั้นถ้าไปขายต่อ จะได้ 5 บาท ก็ให้หยอดว่าเป็นทรัพย์สินมูลค่า 5 บาทครับ

ถ้าสงสัย หรือว่ามีปัญหาเข้าให้แล้ว ลองมาคุยกันต่อใน Telegram group ก็ได้นะครับ เผื่อว่าจะพอช่วยให้แนวทางแก้ไขได้ในเบื้องต้นครับ