ตามคำเรียกร้อง เขียนเอามันส์อย่างเดียว แล้วผมก็จะได้ใช้เองด้วย

โจทย์เรื่องนี้คือ ทำยังไงที่ได้ฟาร์ม Mirror ยาวๆ โดยได้ผลตอบแทนสูงสุด วันนี้จะมาเค้นกันให้สุดๆไปเลยทีเดียว

ขอแบบง่ายๆ ย่อหน้าเดียวจบ

ไปหยอด excel ได้เลย https://docs.google.com/spreadsheets/d/1OzBf_K93W8mBivwVBeG4OLO4i4ng6mBp67Si2VnNWGY/edit?usp=sharing (ถ้าต้องการเก็บไว้ใช้ส่วนตัว ไปที่เมนู File > Make a copy) คิดให้หมดแล้ว แต่ต้อง plot graph เพื่อหาจุด x y ที่เหมาะสมก่อนนะ จากสมการ x +(y+0.225x) + ((y-0.225x)+0.45x) = 100 โดยไป plot ได้ที่ https://www.desmos.com/calculator ทั้งนี้ เนื่องจาก mint ไม่ใช่การ short ดังนั้น IL จะยังมีผลกระทบในเรื่องนี้อยู่ตามปกติ

UPDATE 2021-05-08 :: ตอนนี้ยังไม่มี benefit อะไรที่ได้เพิ่มเติมจากการ mint ดังนั้น ซื้อทั้งหมด ไม่ต้อง mint ก็ได้ ได้ผลไม่แตกต่างกัน แต่ว่าใน Mirror Protocol version ถัดไปจะมี benefit ที่ได้มากขึ้นจากการ mint แต่อย่างไรก็ดีในเนื้อหานั้นสมการ ถูกต้องหมดครับ

ที่มาที่ไปโดยละเอียด

ดังนั้นเราจะเริ่มต้นกันที่ สมการแรก

x + 2y = 100

อธิบายได้ว่า x คือเงินที่เรากันเอาไว้ สำหรับ mint ส่วน y คือมูลค่าที่เข้า PAIR 50:50 ตามปกติ ส่วน 100 คือ คิดที่ 100% (แล้วเราค่อยใช้ scale แบบ % เอาอีกที)

เรา plot graph ได้ดังนี้ครับ

จาก graph เราจะเห็นว่า x = 20 จะได้ Y = 40 นั่นหมายความว่า เรา mint ด้วยเงิน 20 และเข้า pool ด้วย 40:40 นั่นเอง

ซึ่งมาจาก
x + 2y = 100
20 + 2y = 100
2y = 80
y = 40

แต่ในชีวิตจริงเรากลับพบว่า 20 จะ mint ได้ mAsset ออกมา 10 (ด้วย Collateral rate 200%) และ เราเอา 40 ไปซื้อ mAsset ซะแล้ว เราจะได้ mAsset เป็น 50 ซึ่งอีกข้างจะเป็น UST 40 มันจะไม่ลงตัว เพราะมันจะเป็น 40:40(ซื้อ)+10(ได้จาก mint)

ดังนั้น เราจะปรับใหม่ ได้ว่า mint ได้ mAsset ออกมา 10 จะเป็นตัวตั้งต้น แล้วหัก 10 ออกจาก 40 แบ่งเป็นสองส่วน แล้วกระจายลงใน y จึงปรับสมการใหม่ จะได้ว่า

x +(y+0.25x) + ((y-0.25x)+0.5x) = 100

เมื่อ plot graph จะได้

นั่นหมายความว่า x = 20, y = 35 เอามาแทนในสมการ จะได้ว่า

20 +(35+0.25(20)) + ((35-0.25(20))+0.5(20)) = 100
(35+5) + (35-5+10) = 80
40 + 40 = 80

เราจะเห็นได้ว่า เราเข้า PAIR ได้ที่มูลค่าข้างละ 40 โดยที่เราเตรียม UST เอาไว้ 40 (ไม่ใช่ 35 จาก y อย่างเดียวนะครับ ต้องเอาเข้า สมการหาคำตอบด้วย) อีกข้างหนึ่ง ซื้อ mAsset อีก 30 อีก 10 ได้มาจากการ mint ออกมา นั่นเอง

ดูเหมือนจะจบ ว่านี่คือจุดที่ทำกำไรได้สูงที่สุดจากเงินทุนแล้ว แต่ยังไม่จบ

เพราะว่า เราซื้อ mAsset 30 กับ mint 10 แปลว่า ถ้าราคา mAsset ลดลง เราจะขาดทุนในสัดส่วนที่สูงกว่า จากการ mint แต่เราต้องการ mAsset กับ mint อย่างละครึ่งๆ จึงตัดสมการจากท่อนบนมา แล้วปรับให้เป็นอย่างที่เราต้องการ จะได้ว่า

y-0.25x = 0.5x

เมื่อเอามา plot graph จะได้จุดตัดกันดังนี้

x=33.33, y=25 ดังนั้นแทนค่าในสมการ
33.33 +(35+0.25(33.33)) + ((35-0.25(33.33))+0.5(33.33)) = 100
33.33 + 33.33 = 66.67

เราจะเห็นได้ว่า เราเข้า PAIR ได้ที่มูลค่าข้างละ 33.33 โดยที่เราเตรียม UST เอาไว้ 33.33 และ ซื้อ mAsset อีก 16.665 อีก 16.665 ได้มาจากการ mint ออกมา นั่นเอง

ถ้าต้องการ bias ล่ะ?

กรณีที่เรามองว่า mAsset ตัวนี้น่าจะขึ้นนะ แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงมาก แต่ก็อยากได้ gain จากราคาที่เพิ่มขึ้นด้วยนิดนึง ทำยังไง

ใช้สมการนี้ plot เลยครับ แล้วเลื่อนหาจุดที่อยากได้

x +(y+0.25x) + ((y-0.25x)+0.5x) = 100

แล้วหาค่า x ออกมา โดย x จะต้องน้อยกว่า 33.33 เมื่อไรก็ตามที่ x น้อยกว่า 33.33 เมื่อนั้นเราจะเริ่ม bias buy คือ เก็งว่าราคา mAsset จะเพิ่ม เพื่อจะได้กำไรเพิ่มนั่นเอง

ถ้าต้องการเก็งว่าราคา mAsset จะลง แล้วต้องการได้กำไรจากส่วนต่าง ก็ให้เลือก x ที่มากกว่า 33.33 ครับ แต่การเลือก x ที่มากกว่า 33.33 จะทำให้ต้นทุนการ farm เราลดลงด้วยนะ เพราะว่าเราวางหลักประกันเพิ่มนั่นเอง (x คือหลักประกัน)

อยากทำให้ฟาร์มได้เพิ่มขึ้นไปอีก

ตามตัวอย่างนั้น เราใช้การวางหลักประกัน 200% เลย ซึ่งไม่ effective เท่าที่ควร (จุด liquidate อยู่ที่ 150%) ผมคิดว่า งั้นเอาสัก 180% ละกัน กำลังสวย จะได้มีเงินไปฟาร์มเพิ่ม เอาสมการเดิมมาปรับเลย จะได้

x +(y+0.225x) + ((y-0.225x)+0.45x) = 100

x=20,y=35.5 ดังนั้น

20 +(35.5+0.225(20)) + ((35.5-0.225(20))+0.45(20)) = 100
40 + 40 = 100

หมายความว่า เราเตรียม UST เอาไว้ 40 และ ซื้อ mAsset อีก 31 อีก 9 ได้มาจากการ mint ออกมา นั่นเอง เช่นเดิม อันนี้คือ bias buy

หาจัด short hedge พอดีอีกครั้ง

เราดูที่จุดตัด ซึ่งต้องแก้สมการใหม่เป็น

y-0.225x = 0.45x

plot หาจุดตัดเหมือนเดิม

จะได้ว่า x=35.714 ,y=24.107 จุดนี้ จะทำให้ buy mAsset = mint mAsset พอดี ลองหยอดใน google sheet ดูได้ครับ

จากนั้น เราก็หาจุดที่เราพอใจเอาได้เลย โดยหลักการก็คือ พยายามดัน Y ให้ได้มากที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ โดย X จะต้องอยู่ในระยะที่ปลอดภัยครับ เพราะถ้าว่าหลักประกันน้อยเกินไป แล้วราคากระชาก จะโดน liquidate เอาได้ง่ายๆครับ

IL มีผลมั้ย

มีครับ ลองแทนสูตรลงไป x=35.714 ,y=24.107 ดังนั้น เราจะได้ว่า

35.714 +(24.107+0.225(35.714)) + ((24.107-0.225(35.714))+0.45(35.714)) = 100
32.14265 (UST pair) + 16.07135(mAsset buy) + 16.0713 (mAsset mint) = 64.286
64.2853 = 64.286 (ไม่เท่าเพราะทศนิยม แต่ไม่ถือว่าต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ)

ตอนนี้ pair เราเท่ากันแล้วนะครับ ผมสมมุติให้ mAsset เรามีมูลค่า $1.00 ในตอนเริ่มต้น

สมมุติให้ mAsset ลดลง 50% ($0.5)
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ pool value เราจะลดลง จาก 64.2853 เหลือ 48.213975 ซึ่ง แตกออกมาจะได้ว่า
24.1069875 (UST) + 48.213975 (mAsset value 24.1069875) = 48.213975

ต่อมา เราเอา mAsset ครึ่งนึงมาขายคืน ก็คือ 24.1069875 * 0.5 = 12.05349375 [1]
แล้วเราเอา mAsset ที่ mint มาไปคืน ซึ่งตอน mint มาเรา mint มา 16.0713 เราต้องคืนเท่าเดิม คือ 16.0713 ดังนั้น เราจะเหลือ mAsset อีก 8.0356875 เอาไปขายอีก จะได้ 4.01784375 [2]
แล้ว UST ในมือ 24.1069875 [3]
แล้ว UST Colleteral 35.714 [4]
รวม [1] + [2] + [3] + [4] = 75.892325 ก็คือ IL ยังมีผลอยู่นั่นเอง ถ้ามีหนทางแก้แล้วจะมาบอกอีกทีนะ

Plot graph ที่ไหน

อยากลองเล่นเอง จัดไปครับ https://www.desmos.com/calculator สะดวก ง่าย รวดเร็ว

และท้ายนี้ ถ้าต้องการสนับสนุน โดย 60% คืนกลับสู่สังคม ก็อ่านรายละเอียดได้ที่ https://bemyblockchain.com/project ได้เลยครับ