เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา USA ได้ประกาศคว่ำบาตร Platform Tornado Cash ที่กล่าวหาว่าเป็นช่องทางที่ใช้สำหรับการฟอกเงินCryptoCurrency โดยเป็นช่องทางหลัก สำหรับการฟอกเงิน สำหรับการทำผิดกฏหมายหลายครั้ง และ รวมถึงการ hack DeFi platform ต่างๆอีกหลายครั้งด้วย
การคว่ำบาตรนี้ รวมไปถึงการจับกุมตัว นักพัฒนา Tornado Cash ที่ตอนนี้ติดคุกอยู่ ระยะเวลา 90 วัน ระหว่างรอการตั้งขอหา และสั่งให้ USDC ban address ที่เกี่ยวข้อง ที่คาดว่าจะเป็น Treasury ของ Tornado Cash ไปแล้วซึ่ง USDC ก็ปฏิบัติตามเรียบร้อย อีกทั้งยังมีการ Ban Account developer ที่พัฒนา source code รวมถึง ban source code บน github ของ Tornado cash อีก เท่านั้นยังไม่พอ หลายบริการไม่ว่าจะเป็น DNS service ต่างก็ ban Tornado Cash ไปพร้อมๆกัน เรียกว่าล้างบางเลยก็ว่าได้
สิ่งนี้ก่อให้เกิดการต่อต้านกลับมาเช่นกัน จากกลุ่มคนที่มองว่า CryptoCurrency นั้นเกิดมาด้วยเจตจำนงค์ที่จะเป็นอิสระปราศจากการควบคุมจากอำนาจรัฐใดๆ (เริ่มต้นตั้งแต่ Bitcoin) และทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมายว่าการที่ USA สามารถ Ban ได้ระดับนี้ แปลว่า USA มีอำนาจควบคุม Cryptocurrency บางส่วนแล้วใช่หรือไม่ ซึ่งถ้าใช่ ก็จะต้องพิจารณาถึงความ DeCentralized ของระบบการเงินแบบนี้กันใหม่ทั้งหมดเลย
MakerDAO หรือทีมพัฒนา DAI Stable coin ที่เริ่มต้นมาจากการสร้าง $DAI เพื่อให้เป็น Stable Coin มีมูลค่าคงที่ ที่ $1 โดยเริ่มต้นแรกสุดได้ใช้ $ETH เท่านั้นเอามาค้ำไว้ใน Smart Contract เพื่อสร้าง $DAI ลองนึกภาพถึงโรงกษาปณ์ ก็ได้ ที่เอาทองเข้าไปฝากแล้วพิมพ์เงินออกมา เพื่อเอาเงินมาใช้หมุนเวียนในระบบ ต่อมาปลายปี 2019 ก็ได้เปลี่ยนมาใช้ Multiple Token เพื่อเป็นการค้ำประกันมูลค่า $DAI ในระบบ นอกเหนือจาก ETH เพียงอย่างเดียว แน่นอนว่า ก็มี user ที่เลือกเอา USDC เข้ามาค้ำในระบบ เพื่อสร้างเป็น DAI ออกไป เพราะต้องการใช้ DAI โดยที่ไม่อยากรับความเสี่ยง จากความผันผวนของราคา Token ที่เอามาค้ำ
สิ่งนั้นทำให้ตอนนี้ เกือบ 60% ของมูลค่าที่ค้ำอยู่ เป็น USDC และนี่ก็คือปัญหา ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
เพราะทีม MakerDAO ต้องการเอา USDC ออกจากระบบ เพื่อให้กลับไปเป็น Full DeCentralized เหมือนอย่างที่มันควรจะต้องเป็น อันเนื่องมาจากความเป็น Centralized ของ USDC ตอนนี้กำลังจะเข้ามาครอบงำ DAI ไปแล้วนั่นเอง (เกินกว่าครึ่งนึง จริงๆก็เรียกว่าครอบงำไปแล้วแหล่ะนะ)
แต่ก็เหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะว่ามันก็มีข้อดีข้อเสีย จากการที่มี USDC ในระบบ เยอะๆ โดยข้อดีก็คือ มั่นใจได้ว่า มันจะมีมูลค่าคงตัว เนื่องมาจาก USDC ผ่านการ Audit มาแล้ว ว่ามีสินทรัพย์เทียบเท่าจำนวน Token ที่สร้างมาใช้ในระบบตอนนี้ แน่นอนว่ามูลค่ามันจะคงที่ และจะไม่ทำให้เกิดปัญหา DAI เกิดหนี้ จากกรณีราคา Crypto Crash และ smart contract ขายหลักประกันออกไม่ทัน จนทำให้เกิดหนี้ขึ้นในที่สุด (ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว) ในขณะที่ข้อเสียก็คือ USDC มีบริษัทบริหารจัดการอยู่เบื้องหลัง และเค้าจะ Ban ใครก็ได้ถ้าเค้าจะทำ และถ้าวันนึงเค้า ban address treasury ของ $DAI วันนั้น $DAI จะล่มสลายไปในคราวเดียวเลย
เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากในการตัดสินใจอยู่นะ แต่ว่าล่าสุด ดูเหมือนเค้าก็ยังเดินหน้าโครงการต่อ
สิ่งที่จะตามมาก็คือ การเอา USDC ออก อย่างไร เมื่อไร เพราะ MakerDAO เป็น DAO ที่ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำได้เลย ต้องร่าง Proposal และผ่านการ Vote ก่อนด้วย ถึงจะสามารถนำมาใช้งานได้จริง
แต่สิ่งที่ตลาดให้ความกังวล ก็คือเมื่อไม่มี USDC หนุน แล้วหรือว่าช่วงที่เปลี่ยนผ่านนั้นแหล่ะ จะทำให้ DAI ไม่ peg $1 ได้นั่นเอง
แต่เราก็ต้องไม่ลืม หากว่าการเปลี่ยนผ่านนี้สำเร็จ ก็คือยกเลิกใช้ USDC เป็นการ Peg มูลค่า และ $DAI ยังคงไปต่อได้ นั่นแปลว่า DAI มีความสามารถจะเป็น Full Decentralized Stable Coin ของจริงที่จะไม่มีใคร Ban ได้ (อย่างที่มันควรจะต้องเป็น)