เนื้อหานี้จะเป็น อีกรูปแบบหนึ่งในโลกของ DeFi ตามที่เราเคยอธิบายไปแล้ว DeFi คืออะไร ว่าในโลกของ DeFi นั้นมี การบริการในรูปแบบต่างๆเยอะมาก สำหรับเนื้อหานี้ก็จะมาเจาะจงในเรื่องของรูปแบบ โรงรับจำนำ ที่ยังไม่เคยพูดถึงเลย
แนวคิดพื้นฐานก็เรียบง่ายๆสำหรับคนที่ต้องการจะถือเช่นใดในระยะเวลายาวๆ แล้วเราต้องการจะทำกำไรเพิ่มเติมจากการถือ Token นานๆ โดยที่ Token เหล่านั้นจะมีจำนวนเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆด้วย จึงเป็นที่มาของโรงรับจำนำ ในโลก DeFi นั่นเอง
ความความแตกต่างของโรงรับจำนำในชีวิตจริงกับใน DeFi
- ทรัพย์สินที่เราเอาไปฝากหรือเอาไปจำนำนั้น จะได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วย ในชีวิตจริงโรงรับจำนำจะทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะทรัพย์สินที่เราไปฝากเช่นครก มันคงไม่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือแข็งแรงมากขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป แต่ในโลกของ DeFi จำนวนทรัพย์สินที่เราเอาไปฝากมันจะเท่าเดิมเป็นอย่างน้อยหรือเพิ่มขึ้น ตามอัตราดอกเบี้ยฝากที่เขาแจกให้เรา
- เราเลือกที่จะรับเงินออกมาเป็น Token อะไรก็ได้ ในโรงรับจำนำของชีวิตจริงเราเอาทรัพย์สินไปวางเราก็จะได้แต่เงินออกมา แต่ใน DeFi เราสามารถเลือกได้ว่าอยากจะได้ Token อะไรออกมา ไม่จำเป็นต้องเป็น Stable coin อย่างเดียว ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตามที่ Platform เค้ามีให้ด้วยนะ ไม่ใช่ทุก Token บนโลกนี้
- อัตราดอกเบี้ยเป็นแบบลอยตัว และเปลี่ยนแปลงแบบ Real time เรียกได้ว่าเปลี่ยนกันแทบจะทุก 15 นาทีเลยก็ว่าได้ถ้ามีปริมาณการใช้เงินกู้หรือเอาทรัพย์สินมาฝากที่เปลี่ยนไปเยอะๆ สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าอัตราดอกเบี้ยจะคำนวณมาจากปริมาณทรัพย์สินที่เอามาฝากเทียบกับปริมาณทรัพย์สินที่ถูกกู้ไป ของ Token นั้นๆ ทำให้แต่ละ Token มีอัตราเงินกู้ที่ไม่เท่ากันเลย
- ไม่กำหนดระยะเวลาแต่ว่ามูลค่าของทรัพย์สินที่เอามาค้ำประกันจะถูกคำนวณแบบ Real Time และถ้ามูลค่าของทรัพย์สินที่วางค้ำประกันนั้นตกถึงจุดหนึ่งจะถูกริบทรัพย์สินบางส่วนด้วย เช่น เอา BTC มาวางในราคา $10,000 (และเอามาวางค้ำ 1 BTC) โดยมีข้อกำหนดว่า กู้ได้ไม่เกิน 60% ดังนั้น ผมก็กู้เต็ม $6,000 เลย แต่ต่อมา ราคา BTC ตกเหลือ $9000 ดังนั้น 60% ก็จะเหลือ $5,400 จากเดิมที่ผมเคยกู้ไป $6000 เท่ากับว่ากู้เกินอยู่ $600 ดังนั้นผมก็จะถูกริบ BTC บางส่วนไปขาย เพื่อจ่ายคืนเงินกู้ ให้เหลือจำนวนเงินกู้น้อยกว่า $5,400 ด้วยนั่นเอง (อันนี้เป็นตัวเลขสมมุติเท่านั้น เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เพราะว่าในชีวิตจริงจะมีความต่างจากนี้ อันเนื่องมาจากค่าธรรมเนียมและอื่นๆอีกประมาณหนึ่ง)
สำหรับคนที่มีการลงทุนใน BTC / ETH แบบยาวๆ แล้วล่ะก็ การเอา BTC / ETC เข้ามาฝาก เพื่อกู้ BUSD / USDC / USDT / DAI ออกไป ก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว (stable coin พวกนั้น เราก็เอาไปใช้ farm ต่ออีกที เพื่อให้ได้ส่วนต่างมาเพิ่มไปอีก)
ยกตัวอย่างจริงมาเห็นภาพเลย

จากในรูปเราจะเห็นว่าถ้าเราเอา BTC เข้ามาฝาก เราจะได้ดอกเบี้ย 1.86% ต่อปี (BTC ใน BSC network คือ BTCB ครับ อ่านเพิ่มเติม Token ตัวนี้ได้จาก https://coinmarketcap.com/currencies/bitcoin-bep2/ ) ดอกเบี้ยนี้จะได้รับมาใน2 ทาง 1 ก็คือ BTCB จะเพิ่มขึ้น 2 จะได้ XVS ออกมา ซึ่ง 2 ทางนี้รวมกันแล้วก็จะเป็น 1.86% ต่อปีนั่นเอง และถ้าเรากู้ DAI ออกมา เราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับระบบ 3.37% ต่อปี (ตัวเลขติดลบก็คือเราต้องจ่ายดอกเบี้ยคืน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะมาในรูปแบบจำนวน DAI ที่เรากู้ มันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอัตราที่แจ้งหน้าเว็บนั่นแหล่ะ)
ดังนั้นเบื้องต้นเราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยจริงๆก็คือ 3.37-1.86 = 1.51% ต่อไป

แต่ถ้าเราเอา DAI ที่กู้ออกมา ไปฟาร์มต่อ เช่นที่ pancakeswap ที่ตอนนี้ให้อัตราดอกเบี้ย DAI-BUSD เป็นจำนวน 8.94% ต่อปี ดังนั้น รวมแล้วเราจะได้กำไรจริงๆคือ 8.94 – 1.51 = 7.43%
นี่เป็นตัวเลขสมมุติเท่านั้น เพราะชีวิต ตอนเรากู้ เราจะกู้ได้ 60% ของมูลค่าทรัพย์ที่วาง ดังนั้น กำไร 8.94% นั้น มันจะเป็นเพียง 60% max หรือคือ 8.94*60% = 5.364% จะทำให้กำไรลดลง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีกำไรมากกว่าเก็บเอาไว้อยู่เฉยๆอยู่ดีนั่นแหละ เพราะเราต้องไม่ลืมว่าจำนวน BTC ตั้งต้นเราจะไม่ลดลงเลย
ถ้าใครสามารถเอา DAI ไปหากำไรตามย่อหน้าบ่นได้มากกว่านี้นั่นก็คือกำไรส่วนต่างที่จะเพิ่มขึ้น จาก BTC ที่เรามีในมือนั่นเองดังนั้นเราก็จะเห็นว่า BTC ที่มีในมือ เอาไปเป็นทุนในการฟาร์มแบบ stable coin ได้ (เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงเรื่องราคา token ที่ผันผวน) โดยBTC ในมือไม่ลดเลย (ถ้าวางหลักประกันไว้เพียงพอ)
เริ่มต้นเอาทรัพย์สินไปฝาก
ผมจะเริ่มจาก Venus ใน BSC network เพราะเข้าถึงได้ง่าย และอยู่มานาน อัตราเงินกู้ก็ไม่ได้แพงกว่าที่อื่นมาก (จะกู้ DAI ออกมานี่แหล่ะ เพราะว่าดอกเบี้ยถูกที่สุดในตอนนี้)
เนื้อหาที่ซ่อนอยู่ จะแสดงให้เห็นขั้นตอนแต่ละขั้น ตั้งแต่โอน asset จาก binance จนกระทั่งกู้ token DAI ออกมาได้ พร้อมภาพประกอบ รวมทั้ง ข้อควรระวัง และข้อควรพิจารณาเพื่อการตัดสินใจ ก่อนการจะเริ่มทำ ว่า ควรหรือไม่อย่างไร